รับสมัครนักศึกษาฝึกวิชาชีพ ติดต่อ สไมล์ไทย สามพราน วันเวลาทำการ จันทร์-เสาร์ 08.00-17.00 น. ติดต่อจองทัวร์ 083-7077856,064-0317042
ติดต่อจองทัวร์
ใบประกอบะุรกิจนำเที่ยวของบริษัททัวร์
วันแรก กรุงเทพ พนมเปญ
01.00 น. จุดนัดพบกันที่ปั้ม ปตท.วิภาวดี ตรงข้าม มหาลัยหอการค้า ออกเดินทางโดยรถบัส สู่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
05.45 แวะปั๊ม ปตท.วัฒนานคร ทำกิจวัตรประจำวันพร้อมรับประทานอาหารเช้าตามอัธยาศัย
06.30 น. ถึง ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้วเพื่อตรวจเอกสารผ่านด่านคนเข้าเมือง ที่ ด่านปอยเปต โดยทางทีมงานจะอำนวยความสะดวกเรียบร้อย ถึงด่าน ตม.กัมพูชาขึ้นรถบัส บขส.กัมพูชา เพื่อไปถ่ายรถ จากนั้นเปลี่ยนรถเป็นรถปรับอากาศฝั่งเขมร ออกเดินทางผ่านปอยเปต สู่เมืองศรีโสภณ สู่พนมเปญ (มื้อเช้าตามอัธยาศัย)
11.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่1)
13.00น. เดินทางสู่กรุงพนมเปญ ด้วยระยะทาง 320 กิโลเมตร
17.00 น.รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่2) ณ กรุงพนมเปญ
19.00 น. พาท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ โรงแรม ที่เลือก
วันที่สองพนมเปญ ราชวัง วัดพระแก้ว เรือนจำตวลสะแลง เสียมราฐ
07.00 น. (มื้อเช้าตามอัธยาศัย) หลังจากนั้นนำท่านชม พระราชวังหลวง สร้างตามรูปแบบของฝรั่งเศสผสมกับเขมร แต่การตกแต่งภายในได้รับอิทธิพลมาจากพระบรมมหาราชวังของไทย เขตพระราชวังตอนบนมีพระที่นั่งเทวาวินิจฉัยหรือท้องพระโรงตั้งอยู่ตรงกลาง ผนังด้านในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติท้องพระโรงนี้เป็นที่จัดงานพระบรมราชาภิเษกกษัตริย์เขมร และชมพระเจดีย์เงินซึ่งถูกเรียกขานตามลักษณะการก่อสร้าง โดยมีแผ่นพื้นทำจากแผ่นเงินกว่า 5,000 แผ่น รู้จักกันในนาม วัดพระแก้ว เพราะเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตสมัยศตวรรษที่ 17 และพระพุทธรูปทองที่หล่อด้วยทองคำบริสุทธิ์ประดับด้วยเพชรกว่า 1 หมื่นเม็ด ปัจจุบันบริเวณเขตพระราชฐานเป็นที่ประทับของเจ้านโรดมสีหนุ พนมเปญเป็นเมืองตั้งอยู่บนชัยภูมิที่มี แม่น้ำสามสายไหลมาบรรจบกันเรียกว่า จตุมุข แล้วขยายอาณาเขตออกไป จากเนินเขาเตี้ย ๆ ที่อยู่ทางตอนเหนือซึ่งมีตำนานอันเป็นที่มาของชื่อพนมเปญ เมืองหลวงแห่งนี้เต็มไปด้วยสวนและต้นไม้นานาชนิด นอกเหนือไปจากบ้านเรือนที่หลงเหลือมาจากยุคอาณานิคมที่เหมือนอยู่ท่ามกลางเมืองเก่าของฝรั่งเศส บรรยากาศแสนสบายของเมืองที่ห้อมล้อมไปด้วยสายน้ำ จนได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองท่าแห่งสุดท้ายอันยิ่งใหญ่
09.30 น.ชม คุกจองจำ ณ ตวลสะแลง ซึ่งเป็นสถานที่กักกัน และ ทรมานประชาชนเขมร ในสมัยคอมมิวนิสต์ครองกัมพูชา
11.00 น รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่4)
12.00 น.พาท่านออกเดินทางสู่เสียมเรียบ ระยะทาง 320 กม. ระหว่างทาง
18.30 น ถึงเมืองเสียมราฐ ทานอาหารเย็น (มื้อที่5) พร้อมชมการแสดง รำพื้นเมือง พร้อม ระบำอัปสรา
20.30 น.พาท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก
วันที่สาม เสียมเรียบ นครวัด นครธม บายอน บันทายศรี
07.00 น (มื้อเช้าตามอัธยาศัย) ชม ปราสาทบันทายสรี (BanteaySrei)ซึ่งสร้างตอนปลายสมัยพระเจ้าราเชนทรวรมิน (พ.ศ.1510) แต่มาเสร็จเอาในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 ซึ่งเป็นพระราชโอรส แต่คนที่สร้างต่อจนเสร็จเป็นพราหมณ์ชื่อคุรุยัชญวราหะ ตัวปราสาทสร้างในแนวราบเป็นปราสาทหลังเล็กๆกลุ่มหนึ่งสร้างด้วยหินทราย สีชมพูแกะสลักภาพนูนต่ำอย่างงดงามมาก โคปุระของปราสาท บันทายสรี มีลวดลายงดงามมากจำหลักเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ผ่านโคปุระชั้นนอก ซึ่งมีกรอบประตูไม่ใหญ่นักเข้าไป จะเป็นทางเดินปูลาดด้วยหินทราย สองข้างทางปักด้วยเสานางเรียง ทำด้วยหินทรายเช่นกัน ห่างเป็นระยะๆ ถัดออกไปเป็นสระบารายขนาดเล็ก ซึ่งกินพื้นที่อ้อมไปถึงกลุ่มตัวปราสาทด้านใน ปราสาทบันทายสรี หรือที่ชาวเขมรเรียกว่า "บันเตย์เสรย" แปลว่า "ป้อมแห่งสตรี" ถ้าแปลตามภาษาสันสกฤตซึ่ง "ศรี" แปลว่า ความดีงามแล้วก็อาจจะแปลได้ว่า "ป้อมที่สวยงาม" เดินทางไปชม ปราสาทตาพรหม สร้างในปี พ.ศ.1729 โดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เพื่ออุทิศถวายแด่พระราชมารดาเป็นวันในพุทธศาสนาที่มีขนาดใหญ่โตมากกว่าสนามหลวงของไทย ตั้งอยู่กลางป่าและมีแมกไม้ขึ้นปกคลุม จากนั้นชมกลุ่ม ปราสาทนครธม เริ่มจากสะพานนาคราช ซึ่งด้านหนึ่งเป็นศิลาสลักเป็นรูปเทวดากำลัง ฉุดนาค ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นรูปอสูรซึ่งมีขนาดใหญ่มากกว่า 5 เท่าคนจริงรวมกันถึง 108 ตน เป็นสะพานที่กษัตริย์เขมรใช้เป็นทางเสด็จผ่านเข้าออกเมืองนครธมของพระเจ้าชัยวรมันที่7 นำชม ประตูเมือง ที่มียอดเป็นรูปพระโพธิสัตว์หันพระพักตร์ไปทั้ง 4 ทิศที่วิจิตรพิศดารกว่าในประตูเมือง ในประเทศต่างๆที่ท่านเคยพบมาจากนั้นชม ปราสาทบายน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอังกอร์ธมหรือ นครธมเป็นสุดยอดของปราสาทเขมรในยุคเสื่อมคือในรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่7ยอดปราสาท ขนาดยักษ์ทุกหลังจะแกะเป็นเทวพักตร์4หน้าหันออกไปทอดพระเนตรความเป็นไปและทุกข์สุข ของประชาชนทั้ง 4 ทิศ
12.00 น. อาหารกลางวัน (มื้อที่7)
13.00 น.นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทนครวัด ปราสาทหินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งเป็น ปราสาทที่ยิ่งใหญ่ งดงามอลังการตระการตาและได้รับการขนานนามให้ เป็นสิ่งมหัศจรรย์1ใน 7 ของโลก สร้างโดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ตาม ความเชื่อของศาสนาฮินดู เพื่อสร้างถวายพระศิวะ พระวิษณุ หรือพระนารายณ์ ว่ากันว่าการก่อสร้าง ปราสาทนครวัดก็เปรียบเสมือนย่อส่วน ของจักรวาลตามคติความเชื่อของ อินเดียโบราณที่ขอมรับมาอีกทอดหนึ่ง โดยตัวปราสาทหันหน้าไปทางทิศตะวันตก มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดพื้นที่กว้าง 1,500 เมตรและยาว 1,300 เมตร มีคูน้ำขนาดกว้าง 190 เมตร ยาวด้านละ 1,900 เมตรล้อมรอบ เชื่อกันว่า การก่อสร้างใช้ช่างวิศวกรควบคุมการก่อสร้าง 500 คน ส่วนแรงงานใช้ถึง 1,000,000 คน พร้อมทั้งให้ช้างลากหิน 5,000 เชือก และใช้แพบรรทุก หินจากพนมกุเลน (อยู่ห่างจากเสียมเรียบ 65 กม.) โดยล่องมาทางลำน้ำเสียมเรียบถึง 7,000 แพ ประมาณกันว่าใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 37 ปี และนำท่านเดินข้ามสู่สะพานหินนาคราชที่มีความยาว 200 เมตรอันเปรียบเสมือนสะพานรุ้งที่ต่อเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับสรวงสวรรค์ ตื่นตาตื่นใจกับความงามของภาพจำหลักนูนต่ำ เรื่องมหาภารยุทธ์เรื่องรามเกียรติ์ ภาพพระนารายณ์อวตารในปางต่างๆ การตรวจพลของพระเจ้าสุริยะวรมันที่ 2 ภาพทหารขำขันของกองทัพแห่งกรุงสยามซึ่งเรียกว่ากองทัพเสียมกุก ชมภาพการกวนเกษียรสมุทร เพื่อให้ได้น้ำอมฤตซึ่งมีขนาดใหญ่มากและมีความยาวถึง 49 เมตร และภาพจำหลักนูนต่ำที่สะดุดตาที่สุดอีกกลุ่มคือภาพเทพอัปสรหรือนางอัปสรา จำนวนถึง 1,635 นาง สลักอยู่บนฝาผนังระเบียงและ โคปุระทุกชั้น ซึ่งแต่ละนางมีลักษณะการแต่งกายและเครื่องประดับที่แตกต่างกัน ว่ากันว่าถ้าจำแนกทรงผม จะได้ ถึง 36 ทรงผม และชมนางอัปสราที่มีลักษณะแปลกๆ อาทิอัปสรายิ้มเห็นฟัน อัปสราเผยอลิ้น 2 แฉกอัปสราทรงผมเซล่ามูน อัปสราใส่กางเกงขาสั้น
15.00น. เดินทางกลับชายแดนช่องปอยเปต
18.00น. เดินทางถึงชายแดนช่องปอยเปต และถึงกทมประมาณสี่ทุ่มโดยสวัสดิภาพ
แนะนำโปรแกรมที่คล้ายกัน
แผนผังรถตู้
สำนักงานกรุงเทพเเละปริมณฑล
สำนักงานจังหวัดเชียงราย
สำนักงานจังหวัดอุบลราชธานี
สำนักงานพัทยา
สำนักงานจังหวัดมุดดาหาร
Powered by Power Web
Copyright © cambodiatouronline.com 2025